12 ปีที่ผ่านมา
Latest News
ไม่รักไม่ว่า แต่อย่ามาให้ความหวัง !!!
Posted by Sunanta063
, under
ความรัก
|
0
ความคิดเห็น
เวลาที่ใครคนหนึ่ง เดินทางผ่านเข้ามาในชีวิต
จะด้วยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม
คนที่ขาดความรักห รือกำลังอยู่ในภาวะเหว่ว้า
ย่อมรู้สึกรู้สาไปกับใครคนนั้นมากกว่าปกติ
จะด้วยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม
คนที่ขาดความรักห รือกำลังอยู่ในภาวะเหว่ว้า
ย่อมรู้สึกรู้สาไปกับใครคนนั้นมากกว่าปกติ
ถามว่าผิดไหมที่จะรู้สึก
คำตอบคือไม่ผิด
เพราะหัวใจที่ขาดน้ำหล่อเลี้ยง
หากจะกระชุ่มกระชวยเพราะได้รู้สึกกับใคร
คงดีเสียกว่าบังคับใจตัวเอง
ไม่ให้ไปตกหลุมพรางของความรัก
ซึ่งมันโหดร้ายกับตัวเอง มากเกินไปไม่ใช่น้อย
แต่ถ้าใครคนนั้นเดินทางผ่านเข้ามา
เพื่อหยิบยื่นความหวังเพียงเล็กๆ น้อยๆ
ที่ไม่ได้มีอะไรเกินกว่าคนรู้จักกันคนหนึ่ง
แต่มันเป็นความหวังที่สร้างให้เราคิดเกินเลย
คิดมากคิด คิดไปไกล หวั่นไหว
และรู้สึกอยากผูกพันอยู่ตลอดเวลา
หากสิ่งที่เขาแสดงออกกับเรานั้น
กำลังสร้างคำถามให้เราต้องฟุ้งซ่านว่า
แท้จริงเขาคิดยังไง
เขาคิดเหมือนที่เราคิดหรือเปล่า
มันเจ็บยิ่งกว่าการบอกกันตรงๆ
ว่าไม่ได้คิดอะไรเกินเลยเสียอีก
ถ้าเขาไม่ได้คิดอะไรเกินเลย
ไม่ได้อยากรัก ไม่ได้รู้สึกอยากผูกพัน
การแสดงออกเพียงเพื่อสร้างความหวัง
ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งหวั่นไหว
ยิ่งอยู่ไกลยิ่งคิดถึง
หากเขาเลิกให้ความหวัง
และหยุดแสดงออกแบบมากกว่าคนรู้จักกันได้
คงดีไม่น้อยสำหรับหัวใจดวงบอบบางดวงนี้
เพราะความรักไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
และหัวใจคนก็ไม่ใช่ของเล่นของใคร
เชื่อแน่ว่าใจของเราก็พร้อมเสมอ
ที่จะกลับตัวกลับใจได้ทัน
กลับมารู้สึกกับเขาแบบธรรมดาสามัญ
กลับมาเป็นคนเดิม
ที่ยังต้องใช้ชีวิตคนเดียวลำพังต่อไป
และกลับมาเป็นคนที่ไม่ต้องอ่อนแอ
อ่อนไหวอย่างที่กำลังเป็น
ไม่รักไม่ว่า แต่อย่ามาให้ความหวัง
เดินไปคุยโทรศัพท์ไป ระวังปวดหลัง !!!
Posted by Sunanta063
, under
สุขภาพ
|
0
ความคิดเห็น
เดินไป คุยโทรศัพท์ไป มีโทษต่อร่างกาย อาจทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ !!!
คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ยุคนี้โทรศัพท์มือถือนั้น ถือเป็นปัจจัยที่ 5 ของคนยุคดิจิทัลกันไปแล้ว แต่คุณรู้ไหมว่า การเดินคุยโทรศัพท์นั้น มีผลเสียต่อร่างกายของคุณ!!!
ทั้ง นี้ จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยควีนสแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ระบุว่า การเดินคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน ๆ นั้น อาจทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ สาเหตุหนึ่งเกิดจากการหายใจของเรา เพราะว่าร่างกายมนุษย์ถูกออกแบบมาให้หายใจออกเวลาเท้าแตะพื้น ซึ่งจะเป็นการช่วยป้องกันการกระแทกของกระดูกสันหลัง ดังนั้น การพูดและเดินไปพร้อมๆ กันจะทำให้รูปแบบการหายใจนี้เสีย และส่งผลต่อกระดูกสันหลังของเราได้
คณะวิจัยได้ทำการวัดการเคลื่อน ไหวของกล้ามเนื้อลำตัว ซึ่งเป็นส่วนที่ปกป้องกระดูกสันหลังในอาสาสมัครแต่ละคน พบว่ากล้ามเนื้อส่วนลำตัวจะทำงานได้อย่างเหมาะสม ในคนที่เดินเฉยๆ แต่คนที่เดินไปพูดไปจะมีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณนี้น้อยกว่าปกติ และจะเป็นอันตรายต่อกระดูกสันหลังได้
แมทธิว เบนเนตต์ โฆษกของ บริติช คิโรแพรคติค แอสโซซิเอชั่น กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับผลงานวิจัยดังกล่าว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก ๆ มันทำให้เรารู้ว่า เราไม่ควรเดินไปพูดไปในเวลาเดียวกัน เพราะมันจะทำให้ประสิทธิภาพในการเดินของเราลดลง ส่วนงานวิจัยชิ้นนี้ทำให้เราสามารถแนะนำคนที่มีอาการปวดหลังได้ว่า ควรสังเกตวิธีการก้มเก็บของ หรือไม่ควรที่จะนั่งอยู่กับที่นานเกินไป และอีกหนึ่งคำแนะนำคือ ไม่ควรที่จะเดินไปคุยโทรศัพท์ไป
ไม่เฉพาะแต่ การเดินไปคุยไปเท่านั้นที่มีโทษต่อร่างกาย แต่การขับรถไปคุยโทรศัพท์ไปก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ ได้นะคะ.
กินเบียร์แล้วอ้วนมีพุง จริงหรอ ???
Posted by Sunanta063
, under
สุขภาพ
|
0
ความคิดเห็น
บีบีซีนิวส์- เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไม่คนไทยถึงเปรียบเทียบคนที่มีหุ่นตุ้ยนุ้ยว่าอ้วน เหมือนตุ่มเหมือนโอ่ง แล้วทำไมฝรั่งมังค่าเขาถึงบอกว่าคนที่มีพุงพลุ้ยเนี่ยอ้วนเพราะเบียร์ แล้ววันนี้นักวิจัยกลุ่มหนึ่งเขาเกิดพบว่า การบอกว่าคนเรานั้นอ้วนเพราะเบียร์เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง
นักวิจัยจาก อังกฤษและสาธารณรัฐเช็กเกิดนึกสงสัยในคำเรียกขานดังกล่าวจึงได้ทำการสำรวจ ชาวเช็กเกือบ 2,000 คน ซึ่งเป็นที่รู้โดยทั่วกันว่าชาวเช็กนั้นเป็นนักดื่มเบียร์ตัวยง เพราะปริมาณการดื่มเบียร์ของชาวเช็กต่อคนนั้นมากกว่าคนชาติอื่น แล้วคณะวิจัยก็ได้พบว่า การมีพุงกับการดื่มเบียร์ปริมาณมากๆ ไม่เกี่ยวข้องกันเลย ดังนั้นการบอกว่าคนเราจะอ้วนเพราะดื่มเบียร์จึงเป็นการไม่ถูกต้อง
ทั้ง นี้ ดร.มาร์ติน โบบัค จากยูนิเวอร์ซิตี คอลเลจ ลอนดอน (University College London) และคณะวิจัยจากอินสติติวต์ ออฟ คลินิกคอล แอนด์ เอ็กซ์เพอริเมนทอล เมดิซีน (Institute of Clinical and Experimental Medicine) ในกรุงปราก ได้ให้หญิง 1,098 คน และชาย 891 คน ที่มีอายุระหว่าง 25 ถึง 64 ปี ทำแบบสอบถาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา โดยไม่มีการกล่าวถึงเครื่องดื่มอื่นๆ ทั้งสิ้น
จากการสำรวจพบว่า ชายชาวเช็กจะดื่มเบียร์โดยเฉลี่ยราว 3.1 ลิตรต่อสัปดาห์ ขณะที่ผู้หญิงจะดื่ม 0.3 ลิตรต่อสัปดาห์ โดยในจำนวนนี้มีชายอยู่ 3 คนที่ดื่มเบียร์อย่างหนัก คือดื่มราว 14 ลิตรต่อสัปดาห์ และมีหญิงเพียง 5 คนที่ดื่มถึง 7 ลิตรต่อสัปดาห์ โดยก่อนและหลังการดื่มเบียร์ คณะวิจัยจะให้แพทย์วัดขนาดของเอว และสะโพก ชั่งน้ำหนัก และบันทึกดัชนีมวลรวมของอาสาสมัครไว้ตรวจสอบด้วย
คณะวิจัยพบว่า การมีพุงไม่เกี่ยวข้องกับการดื่มเบียร์เลยสักนิด โดยกล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้ของเขาชี้ให้เห็นว่า การกล่าวอ้างว่าคนอ้วนหรือมีพุงเพราะการดื่มเบียร์มากเกินไปจึงเป็นสิ่งที่ ไม่ถูกต้อง
ด้านนักวิจัยจากอิตาลีชี้ว่า ผู้ชายทุกคนมีแนวโน้มที่จะอ้วนลงพุงได้ ตามความผันแปรของยีนของแต่ละคน ขณะที่ไนเจล เดนบี จากสมาคมโภชนาการแห่งอังกฤษกล่าวว่า ผู้ที่ได้รู้ข่าวนี้ก็ไม่ควรวิ่งแจ้นเข้าผับเข้าบาร์หรือไปหาลานเบียร์เพื่อ ซดเบียร์ให้หายอยาก เพราะไม่ว่าจะรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มชนิดใดก็ตามที่ผสมแอลกอฮอล์ก็ สามารถอ้วนได้หากรับประทานมากเกินไป และหากต้องการดื่มจริงๆ ก็ควรดื่มแต่พอดี
ปุ่ม F บนคีย์บอร์ด ใช้ทำอะไร ???
Posted by Sunanta063
, under
|
0
ความคิดเห็น
มารู้จักปุ่ม F บนคีย์บอร์ดกันดีกว่า
F1 - นี่คือปุ่มทางลัดเข้าสู่คู่มือช่วยเหลือ (Help) ของโปรแกรมต่างๆ และถ้าคุณกดปุ่ม Windows Key ตามด้วย F1 มันก็คือปุ่ม Help ของโปรแกรมไมโครซอฟท์นั่นเอง
F2 - ถ้าคุณกดปุ่มนี้ขณะอยู่บนจอเดสก์ท็อป มันคือการไฮไลต์โฟลเดอร์หรือไฟล์เพื่อเตรียมจะเปลี่ยนชื่อ และถ้าอยู่บนโปรแกรม Microsoft Word เมื่อคุณกดปุ่ม Ctrl + F2 มันคือการ Preview เอกสารก่อนพิมพ์
F3 - ปุ่มนี้ใช้เป็นทางลัดเข้าสู่ระบบ Search ของโปรแกรมต่างๆ
F4 - กดปุ่ม Alt + F4 คือการออกจากโปรแกรมที่กำลังใช้งาน
F5 - เมื่อกำลังท่องเว็บไซต์ กดปุ่มนี้คือการทำ Refresh หรือ Reload หน้าเว็บไซต์อีกครั้ง
F6 - คือปุ่มที่ใช้เลื่อน Cursor ไปยัง Address Bar ขณะใช้งานเว็บเบราว์เซอร์
F7 - กดปุ่มนี้เมื่ออยู่ใน Microsoft Word คือการเรียกเช็กระบบตรวจสอบคำผิด
F8 - ปุ่มลัดใช้เรียก Start Menu เวลาอยู่ใน Safe Mode
F9 - ปุ่มลัดเข้าสู่ระบบวัดระยะของโปรแกรม Quark 5.0
F10 - กดปุ่ม Shift + F10 คือการทำงานเสมือนคุณกำลังคลิกขวาที่เมาส์
F11 - กดปุ่มนี้เพื่อการเรียกดูเบราว์เซอร์แบบ Full Screen
F12 - ใช้เป็นคำสั่ง Save as เมื่ออยู่ในโปรแกรม Microsoft Word
ที่มา : http://marsmag.net
RSS คืออะไร ??
Posted by Sunanta063
, under
คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี
|
0
ความคิดเห็น
RSS ย่อมาจาก Really Simple Syndication คือ บริการที่อยู่บนระบบ อินเตอร์เน็ท จัดทำข้อมูลข่าวสารให้อยู่ในรูปแบบXML เพื่ออำนวยความสะดวกให้ กับผู้ใช้ โดยส่งข่าวหรือข้อมูลใหม่ๆ ให้ถึงเครื่องตลอดเวลาที่มีการ Updateไม่ต้อง เสียเวลาเปิดเว็บไซต์เข้ามาค้นหา
ข้อดีของ RSS
RSS ช่วยลดข้อจำกัดในการคัดลอกข้อมูลในเว็บไซต์ โดยเฉพาะกรณีการละเมิด ลิขสิทธิ์ขณะที่ผู้สร้างไม่ต้องเสียเวลาทำหน้าเพจแสดงข่าว ซึ่งต้องทำทุกครั้งเมื่อ ต้องการเพิ่มข่าว โดย RSS จะดึงข่าวมาอัตโนมัติ ทำให้ข้อมูลในเว็บไซต์เป็น ศูนย์กลางมากขึ้น
จุดเด่นของ RSS คือ
- ผู้ใช้จะไม่จำเป็นต้องเข้าไปตามเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อดูว่ามีข้อมูล อัพเดทใหม่หรือไม่ ขณะที่เว็บไซต์แต่ละแห่งอาจมีระยะความถี่ในการอัพเดท ไม่เท่ากัน บางครั้งผู้ใช้ยังอาจหลงลืมจนเข้าไปดูเนื้อหาอัพเดทใหม่บนเว็บไซต์ ไม่ครบถ้วน
- รูปแบบ RSS จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับข่าวสารอัพเดทใหม่ได้ โดยไม่ต้องเข้าไปดูทุกครั้งให้เสียเวลา ซึ่งจะได้ประโยชน์ทั้งฝ่ายผู้บริโภคและ ฝ่ายเจ้าของเว็บไซต์
เรื่องเล่าซึ้งๆ ระหว่างพ่อกับลูกชายตัวน้อย
Posted by Sunanta063
, under
|
0
ความคิดเห็น
ชายหนุ่มเลิกงานและกลับเข้าบ้านช้า ด้วยความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า และพบว่าลูกชายวัย 5 ขวบ
รอคุณพ่ออยู่ที่หน้าประตู
ลูก: “พ่อครับ พ่อผมมีคำถามถามพ่อข้อนึง”
พ่อ: “ว่ามาสิลูก,อะไรเหรอ”
ลูก: “พ่อทำงานได้เงินชั่วโมงละเท่าไหร่”
พ่อ: “ไม่ใช่โกงการอะไรของลูกนี่ ทำไมถามอย่างนี้ล่ะ” พ่อตอบด้วยความโมโห
ลูก: “ผมอยากรู้จริง ๆ โปรดบอกผมเถอะ พ่อทำงานได้เงินชั่วโมงละเท่าไหร่” ลูกพูดร้องขอ
พ่อ: “ถ้าจำเป็นจะต้องรู้ละก็ พ่อได้ชั่วโมงละ 20 เหรียญ”
ลูก: “โอ..” ลูกอุทาน แล้วคอตก พูดกับพ่ออีกครั้ง
ลูก: “พ่อครับ ผมอยากขอยืมเงิน 10เหรียญ”
พ่อกล่าวด้วยอารมณ์
พ่อ: “นี่เป็นเหตุผลที่แกถาม เพื่อจะขอเงิน แล้วไปซื้อของเล่นโง่ ๆ
หรืออะไรที่ไม่เข้าท่าหรอกเหรอ รีบขึ้นไปนอนเลยนะ
แล้วลองคิดดูว่าแกน่ะ เห็นแก่ตัวมาก
ชั้นทำงานหนักหลาย ๆ ชั่วโมงทุกวัน และไม่มีเวลาสำหรับเรื่อง เด็กๆ ไร้สาระอย่างนี้หรอก”
เด็กน้อยเงียบลง เดินไปที่ห้องแล้วปิดประตู ชายหนุ่มนั่งลงและยังโกรธอยู่กับคำถามของลูกชาย
เค้ากล้าที่จะถามคำถามนั้น เพื่อจะขอเงินได้อย่างไร
หลังจากนั้นเกือบชั่วโมง อารมณ์ชายหนุ่มก็เริ่มสงบลง และเริ่มคิดถึงสิ่งที่ทำลงไปกับลูกชายตัวน้อย
บางทีเขาอาจจำเป็นต้องใช้เงิน 10 เหรียญนั้นจริงๆ
และลูกก็ไม่ได้ขอเงินเขาบ่อยนัก ชายหนุ่มจึงเดินขึ้นไปบนห้องแล้วเปิดประตู
พ่อ: “หลับหรือยังลูก”
ลูก: “ยังครับ”
พ่อ: “พ่อมาคิดดู เมื่อกี้พ่ออาจทำรุนแรงกับลูกเกินไป
นานแล้วนะที่พ่อไม่ได้คลุกคลีกับลูก , เอ้า นี่เงิน 10 เหรียญที่ลูกขอ”
เด็กน้อยลุกขึ้นนั่ง
ลูก: “ขอบคุณครับพ่อ”
ว่าแล้วก็ล้วงลงไปใต้หมอนหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมา แล้วนับช้าๆ ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็โกรธขึ้นอีกครั้ง
พ่อ: “ก็มีเงินแล้วนี่ แล้วมาขออีกทำไม”
ลูก: “เพราะผมมีไม่พอครับ แต่ตอนนี้ผมมีครบแล้ว
พ่อครับ ตอนนี้ผมมีเงินครบ 20 เหรียญแล้ว ผมขอซื้อเวลาพ่อชั่วโมงนึง ….
พรุ่งนี้พ่อกลับบ้านเร็ว ๆ นะครับ ผมอยากกินข้าวเย็นกับพ่อ …”
ที่มา : Fwd Mail
หลักคิดจากท่าน ว.วชิรเมธี
Posted by Sunanta063
, under
ธรรมะ
|
0
ความคิดเห็น
หลักคิดจากท่าน ว.วชิรเมธี
๑. กลัวลูกมีเซ็กส์ในวัยเรียน ?
ไม่อยากให้เกิด ต้องเอาปัญญาใส่ในมือลูก ให้เงินลูกน้อยๆ ให้ความรู้แก่ลูกมากๆ ด่าลูกน้อยๆ ให้คำสอนลูกมากๆ
๒. ไหว้พระขอพรอะไรดี ?
( ๑) ขออย่าให้โลภจนหน้ามืด
( ๒) ขออย่าให้โกรธจนทำร้ายตัวเอง
( ๓) ขออย่าให้หลงจนไม่รู้ดีรู้ชั่ว
( ๔) ขออย่าให้ตายในสงคราม ระหว่างคนไทยด้วยกันเอง
๓. ท้อแท้กับปัญหามากมายทำอย่างไรดี ?
ปลาที่ยังเป็นอยู่ ล้วนเรียนรู้ที่จะว่ายทวนน้ำ ส่วนปลาตาย มักไหลตามน้ำ
ปัญหาทำให้คนธรรมดาท้อ แต่ทำให้คนมีปัญญาลุกขึ้นมาแก้ไข
๔. ทะเลาะกับแฟนจนไม่มีสมาธิทำงาน ?
งานส่วนงาน แฟนส่วนแฟน รู้จักแบ่งเวลาให้งาน รู้จักแบ่งเวลาให้แฟน
อย่าเสียงานเพราะแฟน อย่าเสียแฟนเพราะงาน
๕. โกรธ! ถูกเพื่อนนินทา ?
โบราณว่าไม่มีใครเตะหมาที่ตายแล้ว คุณถูกนินทาแสดงว่าคุณยังมีความหมาย
คุณเป็นคนโชคดี จู่ๆ ก็มีกระจกวิเศษสะท้อนความอัปลักษณ์ ให้เห็นความบกพร่องของตัวเอง
๖. จับได้ว่าแฟนมีกิ๊กทำอย่างไรดี ?
( ๑) ถามตัวเองว่าเราดีกับเขาพอหรือยัง
( ๒) ระหว่างเรากับกิ๊กมีข้อดีข้อด้อยต่างกันตรงไหน
( ๓) ถามแฟนว่าจะเลือกใครก็รีบทำ ไม่รักฉัน อย่าทำให้ฉันเสียเวลา
๗. โดนเพื่อนร่วมงานแย่งซีนทำอย่างไร ?
เขาแย่งจากเราได้เพียงแค่ซีนและภาพลักษณ์เท่านั้น
แต่เขาไม่สามารถแย่งความรู้และความสามารถไปจากเราได้
๘. งานเยอะมากทำอย่างไรดี ?
( ๑) รู้ว่างานเยอะต้องรีบทำ
( ๒) อย่าดองงานข้ามปีข้ามชาติ
( ๓) เรียงลำดับความสำคัญของงาน สำคัญก่อนให้รีบทำ สำคัญน้อยค่อยทยอยทำ
๙. ทำงานดี มีแต่คนริษยา จะรับมืออย่างไร ?
โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม คนเด่นต้องมีคนด่า คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี
คนทำงานดีจึงมีคนริษยา ปรากฏการณ์เช่นว่านี้ เป็นของธรรมดา ทำงานดีจนมีคนริษยา
ยังดีกว่าทำงานไม่ดี จึงเป็นได้อย่างดีแค่คนที่คอยริษยา
๑๐. ทำงานแทบตาย เงินไม่พอใช้ ทำอย่างไรดี ?
( ๑) หางานใหม่
( ๒) ลดความต้องการให้น้อยลง อยู่กับความจริงให้มาก
( ๓) บริโภคปัจจัยสี่โดยมุ่งประโยชน์ อย่ามุ่งประดับ
( ๔) ทำบัญชีรายรับรายจ่าย รับมากกว่าจ่ายจึงนับว่ายอด จ่ายมากกว่ารับนับว่าแย่
๑๑. ถูกนายด่า อารมณ์เสีย ?
คนที่ด่าคนอื่นสะท้อนว่าระบบข้างใจกำลังพัง คนอารมณ์เสียเพราะถูกด่า
แสดงว่าระบบของตัวเองก็พังตามไปด้วย
๑๒. ไถ่ชีวิตโคได้บุญมากไหม ?
ถ้าไถ่แล้วโคอยู่รอด คุณได้บุญ แต่หากไถ่เพื่อทำให้วัดอยู่รอด คุณได้บาป
แทนที่จะไถ่โคกระบือ คุณควรไถ่ตัวเองให้พ้นจากความโลภ โกรธ หลง ดีกว่า
๑๓. แฟนติดหนังเกาหลี ดูทั้งคืนไม่ยอมนอน ?
ขอให้คิดว่าอย่างน้อยเธอยังนั่งดูอยู่ในบ้าน ถึงเธอจะติดหนังเกาหลี ก็ยังดีกว่าติดผู้ชายขี้หลีที่อยู่นอกบ้าน
๑๔. ลูกค้าจู้จี้ทำอย่างไรดี ?
มีลูกค้าจู้จี้ยังดีกว่าวันทั้งวันไม่มีใครแวะเวียน ผ่านมาเยี่ยมเยียนถึงในร้าน
ลูกค้าจู้จี้ได้ แต่คุณต้องทำให้เขาประทับใจเอาไว้เสมอ
๑๕. ไปงานวันเกิดควรได้อะไร ?
( ๑) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร
( ๒) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาจากใคร
( ๓) ได้ถามตัวเองว่า เรากตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดแล้วหรือยัง
๑๖. สวดมนต์บทไหนดี ?
( ๑) สวดพุทธคุณเพื่อเตือนว่า จงเป็นผู้ตื่น
( ๒) สวดธรรมคุณเพื่อเตือนว่า จงเว้นสิ่งที่ควรเว้น จงทำสิ่งที่ควรทำ
( ๓) สวดสังฆคุณเพื่อเตือนว่า พระอรหันต์ที่แท้ คือพ่อกับแม่ที่อยู่ในบ้านของเรานั่นเอง
๑๗. สามีไม่สนใจธรรมะเลยทำอย่างไรดี ?
( ๑) เราควรมีธรรมะให้เขาดู
( ๒) เราควรอยู่ให้เขาเห็น
( ๓) เราควรสงบเย็นให้เขาได้สัมผัส เนื่องเพราะ หนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด
๑๘. โดนขับรถปาดหน้า โมโหมาก ?
( ๑) บอกตัวเองว่าโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ด่าคือมาร ระรานคือบาป
( ๒) เปลี่ยนการด่าเป็นการแผ่เมตตาให้เขาถึงที่หมายโดยปลอดภัย
( ๓) เตือนตนไว้ว่า อย่าขับรถปาดหน้าใคร เพราะอาจมีอันตรายรอบด้าน
๑๙. อยู่ในกลุ่มเพื่อนชอบนินทาจะตีจากดีไหม ?
ท่านพุทธทาสกล่าวว่า คนชอบนินทาคือคนที่ชอบกินของเน่า
ถ้าเราร่วมผสมโรงไปกับเขา แสดงว่าเราเองก็ชอบกินของเน่าไม่เบาเหมือนกัน
๒๐. ทำไมมักเจอสิ่งที่ไม่ชอบใจอยู่เสมอ ?
ผู้รู้บอกว่า ศิลปินอย่าดูหมิ่นศิลปะ กองขยะดูดีๆ ยังมีศิลป์
ดังนั้น ในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ย่อมมีแง่มุมที่คุณชอบอย่างแน่นอน